วันเสาร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2554

แสดงความคิดเห็น นางสาวอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา

จากเหตุการ นางสาวอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ในวัยอายุ 16 ปี ที่ขับรถชนกับรถตู้ รู้สึกกับเหตุการณ์นี้คือ รู้สึกกับความประมาณของการขับรถของคน ซึ่งในกรณีนี้เป็นเด็กมาก เพราะวัยแค่ 16 ปี แค่การประมาณเพียงเสี้ยววินาทีทำให้ คนผู้อื่นได้รับความเดือนร้อยมาก ซึ่งไม่เพียงแค่ผู้ตายแต่เป็นอีกหลายคน อาจจะเป็นพ่อ แม่ พี่น้อง ต่าง ๆ สูญเสียกับเหตุการณ์เพียงแค่ความประมาณของเด็กวัยแค่ 16 ซึ่งสาเหตุมากจากความประมาณของตน และการขับรถที่เร็ว แต่ถ้าความเป็นจริงแล้ว แพรวา เล่น BB กับเพื่อนอยู่ก็คงจะให้อภัยกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่ได้

วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554

นวัตกรรมใหม่ “นักเก็ตปลาส้ม”

         นักวิจัย มก. เพิ่มมูลค่าให้อาหารไทย “นักเก็ตปลาส้ม” นวัตกรรมอาหารไทยสู่อาหารจานด่วนที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ด้วยกล้าเชื้อบริสุทธิ์

         “นักเก็ตปลาส้ม” (Plaa-som  Nuggets) เป็นนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารล่าสุดจากโครงการ IFRPD :   ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรม  โดยได้ศึกษาวิจัยการใช้กล้าเชื้อจุลินทรีย์บริสุทธิ์ (starter  culture) นำมาผลิตปลาส้มและพัฒนาปลาส้มในรูปแบบนักเก็ต ซึ่งเป็นปลาส้มที่มีคุณภาพดี ใช้เวลาหมักสั้น ลดความเสี่ยงจากการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรค เป็นผลิตภัณฑ์อาหารหมักที่ได้มาตรฐานสากล และยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับปลาส้มด้วย
          นายประมวล  ทรายทอง  และคณะวิจัย  จากฝ่ายจุลชีววิทยาประยุกต์  สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  เผยว่า  ปลาส้มเป็นผลิตภัณฑ์อาหารหมักของไทยที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์และยังเป็นที่นิยมของคนทุกภาค  มีคุณค่าทางโภชนาการสูง  แต่การหมักปลาส้มมักมีปัญหาเรื่องความเสื่อมเสียของผลิตภัณฑ์  และความไม่สม่ำเสมอของคุณภาพและรสชาติเนื่องจากการหมักต้องอาศัยเชื้อจุลินทรีย์ตามธรรมชาติ
         ดังนั้น คณะวิจัยจึงคิดโครงการศึกษาวิจัยกล้าเชื้อจุลินทรีย์บริสุทธิ์ เพื่อนำมาผลิตปลาส้มและพัฒนาปลาส้มในรูปแบบนักเก็ต  โดยใช้เทคโนโลยีการหมักและคัดเลือกเชื้อจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติดีมาใช้ทดแทนการหมักที่อาศัยเชื้อตามธรรมชาติ  ซึ่งพบว่าเมื่อเติมกล้าเชื้อบริสุทธิ์ในกระบวนการหมักปลาส้มจะช่วยเพิ่มปริมาณเชื้อจุลินทรีย์ที่ต้องการ ส่งผลให้เกิดการหมักที่ดีและใช้เวลาหมักสั้น  ได้ปลาส้มที่มีคุณภาพดีสม่ำเสมอและปลอดภัย  ช่วยประกันคุณภาพและลดความเสี่ยงจากการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรค
        ผลิตภัณฑ์ “นักเก็ตปลาส้ม”  (Plaa-som  Nuggets)  เป็นการแปรรูปปลาส้มให้เป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่สะดวกในการรับประทาน  เพิ่มความน่าสนใจและยกระดับอาหารไทยสู่อาหารจานด่วนที่มีคุณค่าทางอาหาร  สำหรับวิธีการทำนักเก็ตปลาส้มนั้นเริ่มด้วยการนำเนื้อปลาส้มมาบดละเอียด  ปรุงรสด้วยเครื่องเทศตามสูตรต่าง ๆ   แล้วนำไปขึ้นรูปเป็นชิ้นขนาดพอเหมาะ
 จากการปรุงรสในห้องปฎิบัติการได้ทดลองทำนักเก็ตปลาส้มสูตรผสมขิงสด  สูตรผสมพริกแกง  สูตรผสมพริกไทยดำ  สูตรผสมตะไคร้  และสูตรผสมกระชาย  จากการวิจัยพบว่าสามารถเก็บรักษาผลิตภัณฑ์นักเก็ตปลาส้มพร้อมบริโภคในกล่องบรรจุภัณฑ์ได้นานกว่า 6 เดือน ที่ -20°C ผลการทดสอบทางประสาทสัมผัสจากผู้บริโภคด้านรสชาติ  กลิ่น  รส  และคุณภาพโดยรวม  เป็นที่ยอมรับอย่างดีจากผู้บริโภคเมื่อเปรียบเทียบกับปลาส้มที่หมักโดยวิธีธรรมชาติ  และยังเป็นที่ดึงดูดใจผู้บริโภคด้วยเพราะเป็นรูปแบบใหม่ของผลิตภัณฑ์จากปลาส้ม
ปลาส้มที่ได้จากการหมักโดยใช้กล้าเชื้อบริสุทธิ์แล้วพัฒนาเป็นนักเก็ตนี้  นับว่าเป็นการสร้างนวัตกรรมอาหารไทยสู่สากลอย่างแท้จริง  เหมาะกับยุคสมัยเนื่องจากให้ความสะดวกในการรับประทาน  มีคุณค่าทางโภชนาการ  ดีต่อสุขภาพ  เป็นอาหารจานด่วน (fast  food) ที่ดีมีประโยชน์  และไม่อ้วนด้วย


วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2554

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา คณิตศาสตร์

มาตรฐานการเรียนรู้ที่
ค.1.1 เข้าใจถึงความหลากหลายของการแสดงจำนวนและการใช้จำนวนในชีวิตจริง
ค.1.2 เข้าใจถึงผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการของจำนวนและความสัมพันธ์ระหว่างการดำเนินการต่าง ๆ และสามารถใช้การดำเนินการในการแก้ปัญหา
ตัวชีวัด
บวก ลบ คูณ หาร และบวก ลบ คูณ หารระคนของจำนวนนับไม่เกินหนึ่งพันและศูนย์ พร้อมทั้งหนังถึงความสมเหตุสมผลของคำตอบ
สาระการเรียนรู้
         การนับจำนวนสิ่งของด้วยวิธีการคูณนี้ สามารถนับได้เร็วกว่าการนับเพิ่มครั้งละเท่า ๆ กัน หรือการบวกเพิ่มครั้งละเท่าๆ กัน หลักสำคัญที่จะทำให้เราหาผลคูณได้เร็วก็คือ การจำสูตรคูณได้ เพราะสูตรคูณ คือการแสดงผลคูณของจำนวน 2 จำนวน
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. นักเรียนมีความรับผิดชอบต่อตนเองและส่วนรวม
จุดประสงค์
1.หาผลคูณจำนวนที่มีหนึ่งหลักกับจำนวนที่มีหนึ่งหลักได้
กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นนำ
ทบทวนนักเรียนโดยการท่องแม่สูตรคูณแม่ 2-5 และทำความเข้าใจเกี่ยวกับการท่องแม่สูตรคูณ เช่น 2-1 เป็น 2       2-2 เป็น 4       คือ  2 x 1 เท่ากับ 2 และ 2x2 เท่ากับ 4
ขั้นสอน
1. ทบทวนการบวกกับการคูณ โดยตั้งโจทย์ 3+3+ 3+3+3 =
2. ให้นักเรียนหาคำตอบจากการบวก จากนั้นให้นักเรียนลองอีกวิธีหนึ่ง คือ จากโจทย์ให้ทำให้อยู่ในรูปของการคูณจะได้ 5 x 3 = แล้วหาคำตอบ
3. ถามนักเรียนว่าวิธีไหนง่ายกว่ากัน
4. ตั้งโจทย์การคูณจำนวนที่มีหนึ่งหลักกับจำนวนที่มีหนึ่งหลัก ให้นักเรียนฝึกทำ
ขั้นสรุป
ให้นักเรียนเข้าใจความหมายของการคูณ และการหาคำตอบจากการใช้แม่สูตรคูณช่วยในการหาคำตอบ และเปรียบเทียบการหาผลคูณจากการใช้การบวกและการคูณและให้ทำแบบฝึกหัดเพื่อฝึกความชำนาญ
สื่อการเรียนการสอน
1. แม่สูตรคูณ
2. แบบฝึกหัด
3. โจทย์การบวกและการคูณ
เครื่องมือที่ใช้วัด
1. การถาม-ตอบ
2. แบบฝึกหัด
การวัดผลประเมินผล
1. จากการตอบคำถาม
2. จากการทำแบบฝึกหัด
บันทึกหลังการสอน
ผลการสอน
นักเรียน 90 % สามารถทำแบบฝึกหัดและมีความเข้าใจความหมายของการคูณและบอกความสัมพันธ์การบวกและการคูณได้
อุปสรรค/ปัญหา
มี เด็กชายวทิกร ที่ยังไม่เข้าใจความหมายต้องมีครูคอยให้คำแนะนำตลอด
ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
ได้ให้คำแนะนำแล้วมีแบบฝึกหัดอย่างง่ายไว้ให้ฝึกทำ

วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554

ประวัติคอมพิวเตอร์

ประวัติคอมพิวเตอร์
  - แรกเริ่มมนุษย์ดำเนินชีวิตโดยไม่มีการบันทึกสิ่งใด มาจนกระทั่งได้มีการติดต่อค้าขายของพ่อค้าชาวแบบีลอน(Babylonian) การจดบันทึกข้อมูลต่างๆ ลงบน clay tabletsจึงได้ถือกำเนิดขึ้น และอุปกรณ์ที่ช่วยในการคำนวนระหว่างการติดต่อซื้อขายก็ได้ถือกำเนิดขึ้นเช่นกัน อุปกรณ์คำนวณในยุคแรกได้แก่ ลูกคิด(abacus)ซึ่งก็ยังคงใช้กันต่อๆ มาจนถึงปัจจุบัน
     - ประวัติคอมพิวเตอร์ ดำเนินมาถึง ปี พ.ศ. 2185 นักคณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ชื่อ Blaise Pascal (แบลส ปาสกาล) ได้สร้างเครื่องกลสำหรับการคำนวณชื่อ pascaline
    - ต่อมาในปี พ.ศ. 2215 เครื่องกล pascaline ของ Blaise Pasca ได้ถูกพัฒนาเพิ่มเติมโดย Gottfried Von Leibniz นักคณิตศาสตร์ชาวเยอร์มันโดยเพิ่มสามารถในการ บวก ลบ คูณ หาร และถอดรากได้ แต่ก็ไม่มีผู้ใดทราบว่าเครื่อง pascaline ที่ถูกพัฒนาเพิ่มเติมเครื่องนี้มีความสามารถในการคำนวนแม่นยำเพียงใด

    - ปี พ.ศ. 2336 นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษ Charles Babbage ได้สร้างจักรกลที่มีชื่อว่า difference engine ที่มีฟังก์ชันทางตรีโกณมิติต่างๆ โดยอาศัยหลักการทางคณิตศาสตร์ และและต่อมาก็ได้สร้าง analytical engine ที่มีหลักคล้ายเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไปในปัจจุบัน จากผลงานดังกล่าว Charles Babbage ถูกยกย่องว่าเป็นบิดาของคอมพิวเตอร์และเป็นผู้ริเริ่มวางรากฐานคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน
- ปี พ.ศ. 2439 Herman Hollerith ได้คิดบัตรเจาะรูและเครื่องอ่านบัตร
 - จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2480 Howard Aiken สร้างเครื่องกล automatic calculating machine ขึ้น จุดประสงค์ของเครื่องกลชิ้นนี้ก็คือ เพื่อเชื่อมโยงเทคโนโลยีทั้งทาง electrical และ mechanical เข้ากับบัตรเจาะรูของ Hollerith และด้วยความช่วยเหลือของนักศึกษาปริญญาและวิศวกรรมของ IBM ทีมงานของ Howard ก็ประดิษฐ automatic calculating machine สำเร็จในปี พ.ศ. 2487 โดยใช้ชื่อว่า MARK I โดยการทำงานภายในตัวเครื่องจะถูกควบคุมอย่างอัตโนมัติด้วย electromagnetic relays และ arthmetic counters ซึ่งเป็น mechanical ดังนั้น MARK I จึงนับเป็น electromechanical computers
    - และต่อมา Dr. John Vincent Atanasoff และ Clifford Berry ได้ประดิษฐเครื่อง ABC (Atanasoff-Berry Computer) โดยใช้ หลอดสูญญากาศ (vacuum tubes)
    - ปี พ.ศ. 2483 Dr.John W. Mauchy และ J. Presper Eckert Jr. ได้ร่วมกันพัฒนา electronic computer โดยอาศัยหลักการออกแบบบนพื้นฐานของ Dr. Atanasoff electronic computer เครื่องแรกมีชื่อว่าENIAC แม้จะเป็นelectronic computer แต่ENIACก็ยังไม่สามารถเก็บโปรแกรมได้(stored program) จึงได้มีการพัฒนาเป็นเครื่อง EDVAC ซึ่งอาศัยหลักการ stored program สมบูรณ์และได้มีการพัฒนาเป็นเครื่อง EDSAC และท้ายสุดก็ได้พัฒนาเป็นเครื่อง UNIVAC(Universal Automatic Computer) ในเวลาต่อมา
    ในท้ายที่สุด หากจะจำแนกประวัติคอมพิวเตอร์ตามยุคของคอมพิวเตอร์(Computer generations) โดยแบ่งตามเทคโนโลยีของตัวเครื่องและเทคโนโลยีการเก็บข้อมูล ก็สามารถจะจัดแบ่งตามวิวัฒนาการได้ 4 ยุคด้วยกัน คือ
    ยุคแรกเป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้เทคโนโลยีของหลอดสูญญากาศ และการเก็บข้อมูลเป็นแบบบัตรเจาะรู
    ยุคที่สอง เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้เทคโนโลยีของทรานซิสเตอร์ และการเก็บข้อมูลเป็นแบบเทป ลักษณะเป็นกรรมวิธีตามลำดับ(Sequential Processing)
    ยุคที่สาม เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้เทคโนโลยีของไอซี(integrated circuit, IC) และการเก็บข้อมูลเป็นแบบจานแม่เหล็ก ลักษณะเป็นการทำงานหลายโปรแกรมพร้อมกัน (Multiprogramming) และออนไลน์(on-line)
    ยุคที่สี่ เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้เทคโนโลยีของวงจรรวมขนาดใหญ่ (Large-scale integration, LSI) ของวรจรไฟฟ้า ผลงานจากเทคโนโลยีนี้คือ ไมโครโปรเซสเซอร์ (microprocessor ) กล่าวได้ว่าเป็น "Computer on a chip" ในยุคนี้
 จะเห็นได้ว่าวิวัฒนาการจากอดีตถึงปัจจุบัน คอมพิวเตอร์ได้ถูกพัฒนาต่อๆ กันมาอย่างรวดเร็วทำให้วิทยาการด้านคอมพิวเตอร์ มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อาจกล่าวได้อีกว่าโลกของวิทยาการคอมพิวเตอร์นั้นมี การเคลื่อนไหวเสมอ(dynamics) แต่การพัฒนาดังกล่าวกลับไม่ค่อยยืดหยุ่น(rigid)มากนัก เพราะหากเกิดความผิดพลาด ในกลไกเพียงเล็กน้อย บางครั้งก็อาจเป็นบ่อเกิดปัญหาที่ใหญ่โตมหาศาลได้ นอกจากนี้การพัฒนาคอมพิวเตอร์ยังนับได้ว่าเป็นโลกที่ควบคุมไม่ได้ หรือสามารถจัดการได้น้อย กล่าวคือ ทันทีที่คอมพิวเตอร์ทำงานด้วยโปรแกรม เครื่องก็ปฏิบัติงานไปตามโปรแกรมด้วยตนเอง และขณะที่เครื่องทำงานอยู่นั้นมนุษย์จะไม่สามารถควบคุมได้

ประวัติส่วนตัว

ชื่อ นางสาวกรวิกา   ไชยสาร
ชื่อเล่น ชื่อ หวา
เกิดวันที่ 02/03/2528
อาศัยอยู่ บ้านเลขที่ 48 หมู่ 3 ต.บ้านถ้ำ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา
จบการศึกษา ปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์ สาขา จุลชีววิทยา มหาวิทยาลัย เชียงใหม่
ประวัติการทำงาน
                           ทำงานที่โรงเรียนปิยมาตย์ สอนวิชา คณิตศาสตร์ และ วิทยาศาสตร์ ชั้น ป. 1-4
ความถนัดทางด้านคอมพิวเตอร์
                           สามารถใช้โปรแกรม word, Excel, power point ได้